มีผู้ใช้หลายพันคน หัวร้อนบ่นว่า Macbook Pro ตั้งแต่ปี 2016 จอพังง่าย และค่าซ่อมแพงมาก
มีผู้ใช้หลายพันคน หัวร้อนบ่นว่า Macbook Pro ตั้งแต่ปี 2016 จอพังง่าย และค่าซ่อมแพงมาก
ตั้งแต่ที่ Macbook Pro ปรับดีไซน์ใหม่ เพิ่ม Touchbar มาตั้งแต่ปี 2016 ก็มีข่าวปัญหาเรื่องความทนทานออกมาเรื่อยๆ นะครับ เช่นปัญหาคีย์บอร์ดไม่ทำงานเมื่อเจอฝุ่น, ปัญหาเสียบพอร์ต USB-C แล้ว Wifi หยุดทำงาน หรือปัญหาความร้อนสูงจนต้องลดความเร็ว และหลังจากผู้ใช้ได้ใช้งานเกันมาประมาณ 3 ปี ก็มีผู้ใช้จำนวนมากเจอปัญหาไฟที่จอเริ่มแสดงเป็นริ้วๆ เหมือนไฟเวที หรือเมื่อเปิดจอจนสุดแล้วจอจะดับไปเลย ซึ่งมีการตั้งชื่อปัญหานี้แล้วว่า Flexgate หรือปัญหาที่เกิดจากสายแพนั้นเอง
iFixit เว็บไซต์แกะเครื่องชื่อดังได้เผยแพร่ข้อมูลต้นตอของปัญหาจอภาพใน Macbook Pro ตระกูลล่าสุดว่าเกิดจากการออกแบบผิดพลาดของ Macbook Pro ที่ทำสายแพสั้นเกินไป เมื่อเปิด-ปิดจอบ่อยๆ ทำให้สายแพหักจนเกิดปัญหานี้
iFixit บอกว่าจริงๆ แล้วปัญหานี้ควรจะแก้ไม่ยาก และใช้ค่าซ่อมแค่ $6 (~200 บาท) แทนที่จะเป็น $600 (~20,000 บาท) แบบที่แอปเปิ้ลเรียกเก็บตอนนี้ แต่เป็นเพราะการออกแบบของแอปเปิ้ลที่ทำให้สายแพกลายเป็นส่วนหนึ่งของหน้าจอไปเลย เพื่อประหยัดพื้นที่และทำให้เครื่องบางได้ ทำให้การจะเปลี่ยนสายแพ ต้องเปลี่ยนทั้งตัวจอไปเลยซึ่งมีค่าซ่อมแพงมาก
ซึ่งตอนนี้ผู้ใช้ Macbook Pro มากกว่า 6 พันคนก็ได้รณรงค์ให้แอปเปิ้ลจัดการกับปัญหานี้ผ่าน Change.org แล้ว
ขอบคุณที่มาจาก http://www.beartai.com
บทความที่เกี่ยวข้อง
-
MacBook Pro รุ่นใหม่มี SSD ที่เร็วที่สุดในโลก
-
เปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่เงียบๆ มาพร้อม Intel Core i9
-
ผู้ใช้ MacBook Pro เรียกร้องให้แอปเปิลเรียกคืน
-
Apple เปลี่ยนแบตฯบวมใน MacBook Pros
-
Apple เปลี่ยนแบตฯ MacBook Pro ฟรี!! เฉพาะรุ่น 13 นิ้ว ที่ไม่มี Touch Bar
-
Apple ซุ่มพัฒนา MacBook Pro ใหม่ Kaby Lake-R 4 คอร์